สมเด็จเขียวเหนียวจริงกรุวัดบึงพระยาสุเรนทร์ เป็นพระอารามในกรุงเทพมหานคร ผู้ดำเนินการสร้างและอุทิศให้เป็นเขตวิสุงคามสีมา
ได้แก่ เจ้าพระยาสุเรนทร์ราชเสนา (พึ่ง สิงหเสนี) ท่านเป็นบุตรของพระยามุขมนตรี และเป็นหลานของเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) พระยาสุเรนทร์ (พึ่ง สิงหเสนี) เป็นบุตรพระยามุขมนตรี เป็นหลานปู่ของเจ้าพระยาบดินทรเดชา รับราชการสมัยแผ่นดินในหลวงรัชกาลที่ 5
มีศักดินา 4000 ไร่ (แถบบริเวณที่สร้างวัด) เมื่อออกจากราชการแล้วจึงได้สร้างวัดบึงพระยาสุเรนทร์ขึ้นที่คลองสามวา กรุงเทพฯ ได้รับพระราชทานเขตวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ.2431 พระยาสุเรนทร์ได้ศึกษาอาคมต่างๆ จากเจ้าพระยาบดินทรเดชา และเกจิคณาจารย์อีก
หลายท่าน โดยเฉพาะกับ หลวงพ่อทอง วัดราชโยธา ได้พบเอกสารสำคัญจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ฝ่ายเอกสารสำคัญ จึงทำให้เกิดความกระจ่างแจ้งเกี่ยวกับพระวัดบึงพระยาสุเรนทร์ได้อย่างสมบูรณ์ เอกสารจดหมายฉบับนี้พระยาสิงหเสนีได้บรรยายเรื่องการสร้างพระครบครันเพราะเป็นจดหมายที่นำความกราบบังคมทูลพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 เพื่อนำเอาพระเครื่องวัดบึงพระยาสุเรนทร์ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายสำหรับ
พระราชทานแก่ทหารที่จะไปร่วมรบสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยจดหมายนี้ลงวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ.2460 ซึ่งพอรวบรวมความได้ดังนี้

พระยาสิงหเสนี ไปเยี่ยมพระยาสุเรนทร์ ซึ่งบรรพชาอยู่ที่วัดบึงพระยาสุเรนทร์ ได้คิดทำการสร้างพระเครื่องขึ้นมาชุดหนึ่ง ความในจดหมายจารึกปี พ.ศ.2450 ที่พระยาสิงหเสนีไปเยี่ยมพระยาสุเรนทร์ ปรารภว่า คิดจะสร้างพระมานานแล้วแต่ยังไม่สำเร็จ พระยาสิงหเสนีจึงรับเป็นอุปัฏฐาก โดยท่านได้นิมนต์ หลวงปู่ทอง วัดราชโยธา มาเป็นประธานในปลุกเสกให้ สาระสำคัญเครื่องมือในการสร้างพระครั้งนี้ กล่าวคือ แม่พิมพ์ที่ทำจากไม้ชิงชัน โดยเค้าแบบพิมพ์มาจากพระวัดระฆังฯ ส่วนด้านหลังองค์พระจะเป็นหลังเรียบ มักพบจารอักขระขอม 4 ตัว อ่านได้ว่า "ติ ติ อุ นิ" และขึ้นยอดเป็น "ตัวอุณาโลม" ซึ่งดูเห็นได้ว่าไม่ใช่ลายมือของคนคนเดียวกัน ส่วนมวลสารนั้น พระยาสุเรนทร์ตระเตรียมไว้อยู่แล้วครบ ประกอบด้วยผงพุทธคุณ ผงนะแผ่นดิน ผงนะพินทุ ผงนะปฐมกัป น้ำมันมนต์แต่งคนเพื่อหนังเหนียวเป็นวิชาประจำตระกูลสิงหเสนี นอกจากนี้ยังมีน้ำตำลึงคั้นบดละเอียด แล้วกดเป็นพระ โดยตั้งใจไว้ว่าพระส่วนหนึ่งแจกแก่บรรดาญาติ อีกส่วนหนึ่งเก็บบรรจุกรุไว้ที่วัด ส่วนที่เก็บเอาไว้กับญาติๆ
นั้นคราใดที่เกิดศึกสงครามก็ให้นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ครั้นเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 จึงได้นำพระจำนวน 1,500 องค์ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย สำหรับพระราชทานทหาร (ข้อมูลจากหลักฐานเอกสารที่กลาโหมบันทึกบอกแก่แม่ทัพนายกองว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 รับสั่งเรื่องพระราชทานพระเครื่องแก่ทหาร) ผู้ที่นำไปใช้บูชาต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน พระเกิดอิทธิปาฏิหาริย์มากมาย และมีประสบการณ์ดีเด่นด้านแคล้วคลาด จนได้ฉายาว่า "สมเด็จเขียวเหนียวจริง"พระเครื่องพิมพ์นี้ปัจจุบันเรียกว่า พระสมเด็จบึงพระยาสุเรนทร์ เป็นพระเนื้อผง มวลสารหลักคือผงปูนซีเมนซ์ผสมกับผงพุทธคุณวิเศษต่างๆ เป็นพระอมนำมัน
มีความแข็งแกร่ง นอกจากมีส่วนผสมผงใบลานแล้ว ยังผสมหินบดอีกด้วย พระจึงค่อนข้างมีน้ำหนัก และน้ำตำลึงคั้น องค์พระจึงเป็นสีอมเขียวทำเอาบางคนเรียกว่าพระสมเด็จเขียว ชุดที่บรรจุกรุจะมีคราบกรุติดแน่นคล้ายสมเด็จปิลันท์ ปัจจุบันมีการแยกพิมพ์ไว้ทั้งหมด 5 พิมพ์ดังนี้
1.พิมพ์พระเจ้าห้าพระองค์ (นิยมสุด) 2.พิมพ์ปรกโพธิ์ 3.พิมพ์ฐานแซม
4. พิมพ์ฐาน 3 ชั้น 5.พิมพ์เล็บมือ

สนใจขอรูปภาพเพิ่มเติม ติดต่อ Line id : eaw55

160-2-604xx-x762-0-459xx-x